02 055 6366 เปิดบริการทุกวัน 07:00 - 20:00 น.

Blog

โรคภูมิแพ้ ภัยร้ายใกล้ ๆ ตัว

โรคภูมิแพ้เป็นปัญหาสุขภาพที่ส่งผลกระทบต่อคนจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง สารก่อภูมิแพ้ที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวันสามารถกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ได้ เช่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ ละอองเกสรดอกไม้ และมลพิษในอากาศ แม้ว่าจะดูเหมือนไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่โรคภูมิแพ้สามารถทำให้เกิดอาการเรื้อรังและลดคุณภาพชีวิตได้ อาการของโรคภูมิแพ้ ได้แก่ จาม น้ำมูกไหล คันตา คัดจมูก หรือหายใจไม่สะดวก ในบางรายอาจเกิดผื่นหรืออาการผิวหนังอักเสบ หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาการอาจแย่ลงจนกลายเป็นโรคหืดหอบหรือภาวะรุนแรงอื่น ๆ สาเหตุหลักของโรคภูมิแพ้ มักมาจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา สารก่อภูมิแพ้สามารถพบได้ในที่นอน หมอน เฟอร์นิเจอร์พรม และแม้แต่อากาศที่เราหายใจเข้าไป นอกจากนี้ การใช้ชีวิตในเมืองที่เต็มไปด้วยมลพิษและฝุ่นละอองยังทำให้อาการแพ้แย่ลงได้ การป้องกันและลดความเสี่ยงของโรคภูมิแพ้ สามารถทำได้โดย: • ทำความสะอาดบ้านและห้องนอนอย่างสม่ำเสมอ • ซักผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนในน้ำร้อน • ใช้เครื่องฟอกอากาศในห้องนอน • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่นละออง ขนสัตว์ และมลพิษในอากาศ การดูแลสุขภาพและป้องกันตนเองจากโรคภูมิแพ้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะถึงแม้จะเป็นโรคที่ดูไม่รุนแรง แต่ถ้าเราปล่อยให้มันสะสมและไม่ได้รับการดูแล มันก็อาจกลายเป็นภัยร้ายที่กระทบต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาวได้

การทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์สำหรับบ้านน้องแมว

สำหรับบ้านที่มีน้องแมว การรักษาความสะอาดของเฟอร์นิเจอร์เป็นเรื่องท้าทาย เพราะน้องแมวมักจะทิ้งขน รอยขีดข่วน และอาจทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ หากคุณเป็นทาสแมว การดูแลเฟอร์นิเจอร์ให้สะอาดและปลอดจากขนแมวอย่างมีประสิทธิภาพคือสิ่งสำคัญ เรามีเคล็ดลับดี ๆ ในการทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ในบ้านน้องแมวมาแนะนำ 1. ใช้ลูกกลิ้งเก็บขนสัตว์ ขนแมวมักจะติดอยู่ตามโซฟาและเฟอร์นิเจอร์ผ้า การใช้ลูกกลิ้งเก็บขนสัตว์เป็นวิธีง่ายและรวดเร็วในการกำจัดขนแมวจากผิวเฟอร์นิเจอร์อย่างมีประสิทธิภาพ 2. ใช้เครื่องดูดฝุ่น เลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีหัวพิเศษสำหรับเก็บขนสัตว์ หัวแปรงสามารถดักจับขนแมวและเศษฝุ่นได้ดี ไม่ว่าจะเป็นโซฟาผ้า พรม หรือเบาะรถ การดูดฝุ่นเป็นประจำจะช่วยลดปริมาณขนแมวและฝุ่นสะสมได้ 3. เช็ดเฟอร์นิเจอร์ด้วยผ้าเปียก สำหรับเฟอร์นิเจอร์ไม้หรือหนัง การเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ สามารถช่วยกำจัดขนแมวและคราบสกปรกได้ดี อีกทั้งยังช่วยลดการสะสมของเชื้อโรคและฝุ่นละออง 4. ใช้น้ำยาดับกลิ่นธรรมชาติ การใช้น้ำยาดับกลิ่นจากธรรมชาติ เช่น น้ำส้มสายชูผสมน้ำ หรือเบกกิ้งโซดา สามารถช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากน้องแมวได้ หลังจากฉีดพ่นลงบนเฟอร์นิเจอร์ ควรปล่อยทิ้งไว้สักครู่ก่อนเช็ดออก กลิ่นที่หายไปจะทำให้บ้านสดชื่นขึ้น 5. ป้องกันเฟอร์นิเจอร์จากรอยขีดข่วน แมวมักชอบข่วนเฟอร์นิเจอร์ หากต้องการป้องกันไม่ให้เฟอร์นิเจอร์เสียหาย สามารถใช้แผ่นพลาสติกหรือผ้าคลุมเฟอร์นิเจอร์เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน นอกจากนี้ยังควรจัดหาที่ลับเล็บแมวให้เพียงพอเพื่อลดการข่วนเฟอร์นิเจอร์ 6. ทำความสะอาดที่นอนแมวและของเล่น ที่นอนแมวและของเล่นควรทำความสะอาดเป็นประจำ เนื่องจากขนแมวและฝุ่นสามารถสะสมอยู่ในสิ่งของเหล่านี้ได้ การซักทำความสะอาดจะช่วยลดขนแมวที่อาจแพร่ไปยังเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน 7. กำจัดขนจากผ้าคลุมเฟอร์นิเจอร์ การใช้ผ้าคลุมเฟอร์นิเจอร์เป็นวิธีที่ดีในการป้องกันขนแมวเกาะติดเฟอร์นิเจอร์ ควรนำผ้าคลุมออกมาซักอย่างสม่ำเสมอเพื่อกำจัดขนและกลิ่นที่ติดอยู่ 8. […]

ลูก ๆ แพ้อากาศบ่อย ๆ ไม่หายสักที รู้หรือไม่ว่าแหล่งสะสมของโรคภูมิแพ้มาจากไหน ?

หลายครอบครัวมักพบว่าลูก ๆ มีอาการแพ้อากาศเรื้อรัง ทั้งอาการจาม น้ำมูกไหล หรือคัดจมูกที่ดูเหมือนจะไม่หายไปไหน อาการเหล่านี้อาจเกิดจากแหล่งสะสมของสารก่อภูมิแพ้ในบ้านโดยที่เราไม่รู้ตัว ลองดูจุดที่เป็นแหล่งสะสมของสารเหล่านี้: 1. ฝุ่นและไรฝุ่นในที่นอน – ที่นอน หมอน และผ้าห่มเป็นแหล่งสะสมของไรฝุ่นที่เป็นสาเหตุหลักของโรคภูมิแพ้ การซักทำความสะอาดผ้าปูที่นอนและหมอนบ่อย ๆ สามารถช่วยลดปริมาณไรฝุ่นได้ 2. พรมและม่าน – พื้นที่เหล่านี้เก็บฝุ่นละอองและสารก่อภูมิแพ้ไว้มาก ควรดูดฝุ่นหรือทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ 3. เครื่องปรับอากาศและเครื่องฟอกอากาศ – หากไม่ทำความสะอาดไส้กรองอย่างสม่ำเสมอ อุปกรณ์เหล่านี้อาจกลายเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นและเชื้อรา ทำให้คุณภาพอากาศในบ้านลดลง 4. สัตว์เลี้ยง – ขนและรังแคของสัตว์เลี้ยงมักเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของโรคภูมิแพ้ หากมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน ควรทำความสะอาดพื้นที่ที่พวกเขาอยู่บ่อย ๆ การป้องกันการแพ้อากาศเริ่มจากการรักษา 5. หนังสือและชั้นวางของ – หนังสือเก่าและชั้นวางของที่ไม่ได้ทำความสะอาดเป็นประจำสามารถสะสมฝุ่นละอองได้มาก ควรเช็ดทำความสะอาดชั้นวางของและหนังสืออย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นและเชื้อรา 6. พื้นผิวเฟอร์นิเจอร์และมุมห้อง – มุมห้องและพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์มักเป็นที่ที่ฝุ่นละอองสะสมโดยไม่รู้ตัว การดูดฝุ่นและเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์และมุมห้องบ่อย ๆ จะช่วยลดปริมาณฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ในบ้านได้ ความสะอาดภายในบ้าน การทำความสะอาดอย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอจะช่วยลดแหล่งสะสมของสารก่อภูมิแพ้และทำให้อาการแพ้อากาศของลูก ๆ ลดลงได้

ครัว ความสะอาดที่ไม่ควรมองข้าม?

ทำไมการทำความสะอาดครัวจึงสำคัญ? ครัว หนึ่งในพื้นที่สำคัญภายในบ้าน เป็นพื้นที่ที่ทุกคนมักมาใช้เวลาด้วยกันมากที่สุดแห่งหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นพื้นที่ที่สามารถเกิดคราบสกปรกได้ง่ายที่สุดแห่งหนึ่งด้วยเหมือนกัน ทั้งในแง่ความสะอาดภายนอกที่มองเห็นได้ด้วยตา และความสะอาดที่อยู่ลึกลงไป ที่อาจส่งผลถึงสุขอนามัยของคุณและคนในครอบครัวได้เลย และนี่คือเหตุผลส่วนหนึ่งว่าทำไมเราถึงควรทำความครัวอย่างสม่ำเสมอ 1. เพราะสะอาดดี = สุขอนามัยดี ครัวเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เป็นแหล่งรวมเชื้อโรค โดยเฉพาะจากของสดต่างๆ เขียง เคาน์เตอร์ อุปกรณ์ครัวต่างๆ ทั้งหมดนี้อาจมีเชื้อโรคอันตรายซ่อนอยู่ ถ้าไม่ล้าง เชื้อโรคร้ายเหล่านี้อาจเจริญเติบโตหรือปนเปื้อนลงไปในอาหารได้ การทำความสะอาดเครื่องครัว รวมถึงเช็ดล้างพื้นผิวที่เป็นพื้นที่ครัวบ่อยๆ สามารถลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี 2. เคลียเศษ = ลดสัตว์ เศษอาหารที่หกเลอะ รวมถึงเศษอาหารที่เหลือทิ้งไว้ สิ่งเหล่านี้ดึงดูดสัตว์ไม่พึงประสงค์ ซึ่งเป็นหนึ่งในพาหะของเชื้อโรคต่างๆ ที่สามารถสร้างปัญหาให้เราได้ แถมสัตว์เหล่านี้แพร่พันธุ์ได้เร็วอีกด้วย การเก็บกวาดเศษอาหารทันที เทขยะบ่อยๆ เก็บอาหารไว้ในภาชนะปิดสนิท เพียงเท่านี้ก็สามารถลดสาเหตุที่มาของสัตว์ไม่พึงประสงค์ลงได้แล้ว 3. ครัวสะอาด = อากาศดี นอกจากกลิ่นจากการปรุงอาหารแล้ว คราวสกปรกสะสมยังเป็นสาเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์อีกด้วย ทั้งไขมัน ไอน้ำมัน เศษอาหารที่กระเด็นไปสะสมอยู่ตรงตามซอกต่างๆ ที่เข้าทำความสะอาดได้ยาก นานวันเข้าก็อาจเติบโตเป็นเชื้อโรค เชื้อรา และนำมาซึ่งกลิ่นไม่พึงประสงค์อย่างแน่นอน การทำความสะอาดพื้นที่ปรุงอาหาร และพื้นที่ที่สัมผัสกับอาหารหรือไอน้ำมันโดยตรง เช่น ฝาครอบเตา […]

เคล็ดลับและวิธีการทำให้บ้านสะอาดตลอดเวลา

การทำความสะอาดทั่วไปไม่เพียงแต่ช่วยให้บ้านดูเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ยังเป็นวิธีที่ดีในการดูแลสุขภาพของครอบครัวและป้องกันการสะสมของฝุ่นและเชื้อโรคในบ้านอีกด้วย การรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจสะสมจนกลายเป็นงานที่ยากเกินไป มาดูกันว่าคุณสามารถทำความสะอาดบ้านของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร? 1. วางแผนทำความสะอาดรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน การทำความสะอาดทั่วไปสามารถแบ่งออกเป็นงานที่ควรทำในแต่ละช่วงเวลาเพื่อให้ง่ายต่อการจัดการ: งานรายวัน: จัดเตียง ล้างจาน กวาดพื้น และเช็ดเคาน์เตอร์ งานรายสัปดาห์: ถูพื้น เปลี่ยนผ้าปูที่นอน ล้างห้องน้ำ และเช็ดทำความสะอาดกระจก งานรายเดือน: ทำความสะอาดโคมไฟ พัดลม ระเบียง และซักพรมหรือผ้าม่าน การจัดแบ่งงานแบบนี้จะช่วยให้คุณไม่รู้สึกว่าต้องทำความสะอาดมากเกินไปในครั้งเดียว และยังทำให้บ้านของคุณสะอาดสม่ำเสมอ. 2. อุปกรณ์ทำความสะอาดที่จำเป็น การมีอุปกรณ์ทำความสะอาดที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณทำงานได้เร็วและง่ายขึ้น นี่คืออุปกรณ์พื้นฐานที่ควรมี: ไม้กวาดและไม้ถูพื้น: สำหรับการทำความสะอาดพื้น ผ้าสำหรับเช็ด: ผ้าไมโครไฟเบอร์เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะสามารถเช็ดฝุ่นและน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์: ใช้สำหรับทำความสะอาดพื้นผิวต่างๆ เช่น โต๊ะ เคาน์เตอร์ และกระจก ถุงมือยาง: เพื่อปกป้องมือจากสารเคมี 3. เริ่มทำความสะอาดจากบนลงล่าง ในการทำความสะอาดบ้าน ควรเริ่มจากการทำความสะอาดส่วนที่สูงก่อน เช่น เช็ดฝุ่นบนตู้หรือชั้นวางของ จากนั้นจึงค่อยกวาดพื้น เพราะการทำความสะอาดจากบนลงล่างจะช่วยลดปริมาณฝุ่นที่ตกลงมาที่พื้น ทำให้คุณไม่ต้องทำซ้ำหลายรอบ 4. การทำความสะอาดห้องต่างๆ ห้องครัว ห้องน้ำ […]